วันศุกร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตัวอย่างมังกรหยกในเวอร์ชั่นต่างๆ

             สวัสดีครับ สำหรับวันนี้นะครับ ผมจะนำภาพยนตร์ตัวอย่างในแต่ละเวอร์ชั่นมานำเสนอให้เหล่าจอมยุทธทั้งหลายได้ ชมกันเพื่อละลึกถึงความหลังของ มังกรหยกในแต่ละภาคกันนะครับ


      ในภาพยนต์มังกรหยกนั้น มีการสร้างขึ้นมากมายหลายครั้ง ซึ่งก็จะมีการเปลี่ยนตัวนักแสดงไปเรื่อยๆ และก็จะมีความสนุกและความน่าสนใจที่แตกต่างกันออกไป และมีการเปลี่ยนชื่อตอน เช่น ตอน จอมยุทธอินทรี  กำเนิิดเอื้อก้วย


       จากคลิปข้างบนเป็นมังกรหยกจากตอน จอมยุทธอินทรีย์ ซึ่งเป้นภาคล่าสุดที่ช่อง3 ได้นำมาฉายสำหรับเรื่องมังกรหยก ซึ่งนำแสดงโดย หวงเสี่ยวหมิงและหลิวอีเฟ้ย





ส่วนคลิปนี่้เป็นมังกรหยกที่สร้างในปีส่วนคลิปนี่้เป็นมังกรหยกที่สร้างในปี  1995 ตอนกำเนิดเอี้ยก้วย ซึ่งนำแสดงโดย กูเทียนเลอและหลี่ยัวถง



  
ส่วนคลิปนี่้เป็นมังกรหยกที่สร้างในปีส่วนคลิปนี่้เป็นมังกรหยกที่สร้างในปี  1998



ส่วนคลิปนี้เป้นภาพต่อของภาพยนต์มังกรหยก ซึ่งได้นำเรื่องราวของมังกรหยกเข้ามาเกี่ยวข้ิอง โดยมีการอ้างอิงถึงวรยุทธอย่าง วิชาเก้าอิม และเขียนด้วยผู้เขียนคนเดียวกัน

             หลายๆคนคงรู้สึกแบบ ประทับใจหรือสุขใจใช่ไหมครับ หรือ เอ๊ ผมรู้สึกไปคนเดียว เพราะการที่เราได้ดูหนังที่ตัวเองชอบเนี้ย มันทำให้แบบ บรรยายไม่ถูก รู้สึกดีใจ555 คราวหน้าผมจะพาไปสัมภาษณ์จอมยุทธท่านอื่นดูบ้าง ว่าเค้าจะมีความคิดเห็นหรือประทับใจ อะไร ในเรื่องมังกรหยก แล้วผมจะถามอะไรนั้น ติดตามได้ในคราวหน้านะจ๊ะ 




www.youtube.com

เคล็ดวิชาสุรางคนางค์

  สวัสดีครับ วันนี้ผมก็มตามสัญญานะครับ เอาวิชา สตีหยกมาให้ทำความรู้จักกัน วิชานี้ถือเป็น1 ในวิชาเอกของเรื่องเลยที่เดียว ที่มีความร้ายกาจเอามากๆ                                                                                                                                       

เคล็ดวิชาสุรางคนางค์วิชาหฤสตีหยก , วิชาดรุณี ) 


ระหว่างการฝึกวิชา
ที่มา http://roch.clubdara.com/skill_lady.php

เพลงกระบี่สุรางคนางค์เป็นดาวข่มของเพลงกระบี่ชวนจินก่าอย่างแท้จริง ทุกกระบวนท่าพอสะกดข่มเพลงกระบี่ชวนจินก่า จนไม่อาจขยับเคลื่อนย้ายได้ นับว่าจอคุกคามอยู่ทุกย่างก้าว ชิงสยบทุกท่วงท่า ไม่ว่าเพลงกระบี่ชวนจินก่าจะพลิกแพลงเปลี่ยนแปรงอย่างไร ไม่อาจสลัดหลุดจากการครอบคลุมของเพลงกระบี่สุรางคนางค์ได้ ในส่วนของวิชากำลังภายในนั้น ลิ้มเฉียวเอ็งคิดหาวิธีสยบ กลับไม่ง่ายดายนัก แต่ด้วยสติปัญญาอันชาญฉลาด ได้ค้นพบแนวทางลัด ใช้วิชาทางอธรรมช่วงชิงเป็นฝ่ายมีเปรียบ


การฝึกกำลังภายใน


    การฝึกเคล็ดกำลังภายของ เคล็ดวิชาสุรางคนางค์นั้น ต้องฝึกด้วยกันสองคน จึงเกื้อหนุนกันและกัน วิชากำลังภายในนี้มีอุปสรรคทุกฝีก้าว อาจโคจรพลังผิดแนวทางได้ทุกเมื่อ หากปราศจากผู้อื่นคอยช่วยเหลือ ต้องถูกธาตุไฟเข้าแทรกแน่นอน ต้องผนึกกำลังกันสองคนค่อยผ่านด่านอันตรายได้

เพลงกระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์


กระบี่สุรางคนางค์ใจพิสูจน์
ที่มา http://roch.clubdara.com/skill_lady.php
        กระบี่คู่ที่กรีดกรายเป็นภาพ แท้จริงเพื่อการผนึกกำลังสยบสัตรูจึงเป็นจุดมุ่งหมายสำคัญ ดังนั้นวิชาการต่อสู้ในบทสุดท้าย คนหนึ่งใช้ฝีมือในคัมภีร์สุรางคนางค์ คนหนึ่งใช้วิชาสำนักช้วนจิน ประสานเสริมซึ่งกันและกันแยกย้ายรุกจู่โจม 
    กระบวนท่าทั้งสองมีชื่ตรงกัน ท่าเพลงกลับผิดแผกแตกต่าง หนึ่งเป็นท่ากระบี่อันยอดเยี่ยมร้ายกาจของเพลงกระบี่ชวนจินก่า หนึ่งเป็นแนวทางอันหวาดเสียวของเพลงกระบี่สุรางคนางค์ กระบี่คู่ผนึกรวม เปล่งอนุภาพน่าตระหนก ในบัดดลสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของเพลงกระบี่ทุกกระบวนท่าของเพลงกระบี่ชุดนี้ 
     
     เป็นไงกันบ้างละครับ สำหรับจอมยุทธท่านไหนที่อยากจะรู้รายละเอียดให้ลึกกว่านี้ ก็สามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้จาก เว็บอ้างอิงด้านล่างนะจ่ะ สำหรับคราวหน้า กระบี่ไร้รักจะพาไปดู ภาพยนตร์ตัวอย่างของแต่ละเวอร์ชั่นกัน อิอิ 

                                             แหล่งที่มา http://roch.clubdara.com/skill_lady.php

ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า




ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่า หรือ
 อาจจะเรียกเป็น ฝ่ามือสยบมังกรสิบแปดท่า


กวยเจ๋ง ต้นตำรับวิชาฝ่ามือมังกรสิบแปดท่า
ที่มาhttp://roch.clubdara.com/skill_dragon.php
วิชาฝีมือนี้มีบทบาทอย่างกว้างขวางในนิยายของกิมย้งผู้ใช้วิชานี้มักจะเป็นยอดแห่งจอมยุทธในยุคนั้นๆ แม้ว่าในยุคหลังๆจะเสื่อมถอยลงแต่ก็ยังมีการพูดถึงอยู่ ฝ่ามือพิชิตมังกรสิบแปดท่าเป็นวิชาประจำพรรคกระยาจก
 ผู้ที่เหมาะกับการฝึกวิชานี้จะต้องมีร่างกายกำยำแข็งแรง จึงไม่เหมาะกับสตรี วิชานี้มีผู้ใช้อยู่หลายคน
บางคนแม้ไม่ใช่ศิษย์พรรคกระยาจกก็มีโอกาสได้ฝึก แต่ที่โดดเด่นสะท้านยุทธภพ มีดังนี้


เฉียวฟง
ที่มาhttp://roch.clubdara.com/skill_dragon.php 


เฉียวฟง จอมยุทธผู้เรืองนามในยุคนั้นซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่าในยุคแปดเทพฯนั้น เป็นยุคที่มียอดวิชาที่สุดร้ายกาจ
มาถึงยุคของมังกรหยกวิชานี่ยังคงอนุภาพร้ายจากสั่นครอนยุทธภพ ผู้ที่ใช้วิชานี้คืออั้งชิกกงประมุกพรรคกระยาจก อั้งชิกกงได้รวบรวมวิชานี้ที่กระจัดกระจายอยู่มาไว้ด้วยกันแต่ยังไม่ครบสิบแปดท่า และเพื่อให้ครบสมบูรณ์ตามชื่อวิชาอั้งชิกกงใช้ความอัฉริยาของตนเองบัญญัติคิดค้นขึ้นเพิ่มเติม รวมเป็นสิบแปดท่าตามเดิมและใช้วิชานี้ โลดเล่นเป็นหนึ่งในยอดจอมยุทธ์ ของยุคนั้น เทียบเคียงกับ อึ้งเอี๊ยะซืออาวเอี้ยงฮง และอิดเต็งไต้ซือก๊วยเจ๋ง

       ก๊วยเจ๋งได้รับการสืบทอดวิชานี้มาจากอั้งชิกกง และเป็นอีกผู้หนึ่งที่มีความสำเร็จในยอดวิชานี้อย่างที่สุด สามารถใช่ร่วมกับวิชาอื่นๆที่ตัวเองมีได้อย่างกลมกลืนสำหรับในมังกรหยกภาคสองนั้น วิชานี้ของก๊วยเจ๋งได้สำแดงเดจครั้งแรกตอนที่ประทะกับอาวเอี้ยงฮง โดยก๊วยเจ๋งใช้ออกด้วยท่าพญามังกรผยองได้สำนึกกิมย้งนั้นได้อธิบายความร้ายกาจของกระบวนท่านี้ว่าก๊วยเจ๋งทบทวนฝึกกระบวนท่านี้โดยไม่ว่างเว้นตอนแรกเริ่มฝึกปรือก็ร้ายกาจยิ่ง บวกกับการมานะฝึกปรือตลอดมานับว่าก้าวถึงขั้นสุดยอด ตอนแรกที่ผลักมือออกดูไปคล้ายราบเรียบธรรมดา แต่พอเผชิญการต่อต้านสามารถเพิ่มพลังตามหลังอีกสิบสามชั้นในชั่วพริบตา

            เป็นไงบ้างล่ะครับ สำหรับวิชานี้ ผมว่าเป็นวิชาที่สุดยอดมากๆในบรรดาวิชาในหนังจีนที่ผมเคยดูมา และคราวหน้านะครับ ผมก็มีวิชาที่สุดยอดอีกเช่นกันจาก มังกรหยก นั้นก็คือ วิชาสตีหยก หรือ สุนางครางค์พิสูจน์ใจนาง เป็นวิชาของเซียวเหล็งนึ่ง ซึ่งมีควมงดงามและอรุภาคไม่แพ้ท่าสยบมังกร 18 ท่า สำหรับผู้ที่ต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับวิชาต่างๆก็สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่http://roch.clubdara.com/skill_dragon.php

แหล่งที่มา http://roch.clubdara.com/skill_dragon.php


     

วันพฤหัสบดีที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตัวละึครเซี่ยวเหล็งนึ่ง

    สวัสดีครับ ชาวยุทธทุกท่านสำหรับวันนี้นะครับผมก็เอาตัวละครที่ชื่อว่าเซี่ยวเหล่งนึ่งมาฝาก    สืบเนื่องจากคราวที่แล้วที่ได้นำเอี้อก้วยมาให้ทำความรู้จักกันมากขึ้น ซึ่งตัวละครเซียวเล็งนึ่งนั้น เป็นนางเอกของเรื่องและในแต่ละเวอร์ชั่นนั้นก็ความสวยไม่แพ้กัน 

ตัวละคร เซียวเหล่งนึ่ง

เซี่ยวเล็งนึ่ง แหล่งที่มา http://www.showwallpaper.com/view.php?topic=3093&page=112

        เซียวเหล่งนึ่ง มีการสะกดเป็นไทยหลายแบบบ้างก็ใช้ เซียวเล่งนึ่งหรือในนิยายของ น.นพรัตน์สะกดว่า เซียวเล้งนึ่งในที่นี้จะเรียกว่า เซียวเหล่งนึ่งเพราะเห็นว่าเป็นแบบที่นิยมกันมากที่สุดถ้าพูดถึงสาวงามแล้วในนิยายกำลังภายในหลากหลาย
ความงามของเซียวเหล่งนึ่ง
    เซียวเหล่งนึ่งนั้นมีใบหน้าดูสงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ และเย็นชาราวน้ำแข็ง ล้วนตรึงสายตาผู้คนให้จับจ้อง  กิมย้งได้บรรยายถึงความงามของนางไว้ในหลายฉากหลายตอน ดังเช่นเมื่อครั้งที่เซียวเหล่งนึ่งปรากฎตัวที่งานชุมนุมชาวยุทธ ได้หยุดสายตาของเหล่าชาวยุทธที่มาร่วมงานให้จับจ้องไปที่นาง กิมย้งได้บรรยายในตอนนี้ว
    เซียวเหล่งนึ่งเป็นผู้หญิงไร้เดียงสาอ่อนต่อโลก แต่ก็ไม่ใช่คนโง่ บุคลิกที่โดเด่นอีกอย่างของนางคือความใจเย็น มีสมาธิที่แน่วแน่ ทั้งดูสง่าน่าเลื่อมใสและดูน่าทะนุถนอมในเวลาเดียวกัน บุคลิกที่สง่างามของเธอนั้นติดตัวเธออยู่ตลอดเวลา ทั้งเวลาพูดจา เวลาต่อสู้ หรือแม้กระทั่งเวลานอนก็ยังคงดูสวยงามเป็นเอกลักษณ์ 
วรยุทธของเซียวเหล่งนึ่ง
     ในด้านวรยุทธ นางก็มีวรยุทธที่ไม่ธรรมดา วิชาของสำนักสุสานโบราณเป็นวิชาของ ลิ้มเฉียวเอ็ง ยอดจอมยุทธหญิงในยุคก่อน มีวิชาที่หลากหลายทั้ง กระบี่ ฝ่ามือ อาวุทธลับ และวิชาตัวเบาที่สูงส่งไม่เป็นสองรองใครในยุทธภพ ยังวิชาสุดยอดอย่างอย่างวิชาใน คัมภีร์สุรางคนางค์ (คัมภีร์สาวหยก)  ภายหลังยังคงได้เรียนวิชาสองมือขัดแย้งจากจิวแป๊ะธง ทำให้สามารถใช้วิชากระบี่สุรางคนางค์ใจพิสุทธิ์ ด้วยตัวคนเดียวได้ นับเป็นวิชาที่ไม่มีใครเคยใช้มาก่อน มีความว่องไวสุดเปรียบปรานอาวุธประจำกาย และอาวุธของนางคือ สายรัดแพรสีขาว 2 เส้น ส่วนปลายผูกไว้ด้วยลูกกลมสีทอง  ถุงมือถักทอจากเส้นใยทองคำขาว เข็มผึ้งหยก 


                      เซียวเหล่งนึ่ง เวอร์ชั้นหลิวอี้เฟย
เวอร์ชั่น หลิวอี้เฟย
ที่มา http://thai.cri.cn/mmsource/images/2012/02/17/f31f0338143044e8b710924a61cafd57.jpg

        ในปี 2006 เซียวเหล่งนึ่งคนล่าสุด ที่แสดงโดยหลิวอี้เฟยได้สร้างความสนใจไม่น้อย เนื่องจาก กิมย้ง ได้ออกปากว่า หลิวอี้เฟยเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่ใกล้เคียงจินตนาการของท่านมากที่สุด ทำให้หลิวอี้เฟยเป็นที่จับตามอง มีเสียงวิภาควิจารณ์ต่างๆมากมาย ทั้งในแง่บวกและแง่ลบ บ้างว่าเธอดูเด็กเกินไป บ้างว่าความสามารถทางการแสดงยังไม่ถึง บ้างก็ชื่นชมบอกว่าเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่หลุดออกมาจากนิยายเลยทีเดียว ถ้าพูดถึงตามบทแล้วหน้าตาหลิวอี้เฟยในช่วงแรกก็ไม่ถือว่าเด็กไป แต่ถ้าพูดถึงความสวยงามแล้วหลายคนก็ให้ความเห็นว่าสง่างามตระการตาดีทีเดียว อีกส่วนหนึ่งที่หลายคนพูดถึงคือฉากต่อสู้ ในเวอร์ชั้นนี้มีการลงทุนสูงเทคนิคการถ่ายทำก็พัฒนาขึ้น เมื่อรวมกับความสามารถของหลิวอี้เฟยในการเต้นบัลเล่ ทำให้ท่วงท่าในการต่อสู้ต่างๆออกมาอ่อนช้อยพลิ้วไหวสวยงาม ถือเป็นอีกจุดเด่นของเซียวเหล่งนึ่งภาคนี้ โดยรวมก็ถือเป็นเซียวเหล่งนึ่งอีกเวอร์ชั้นที่น่าดู ที่มีเอกลักษณ์แตกต่างออกไปจากเวอร์ชั่นก่อนๆ




เซียวเหล่งนึ่ง เวอร์ชั้น หลี่ยั่วถง

เวอร์ชั่น หลี่ยั่วถง
ที่มา http://roch.clubdara.com/image/char_xiaolongnu_06.jpg
             ถ้าพูดถึงเซียวเหล่งนึ่งในดวงใจ มีการถามไถ่และทำแบบสำรวจ

ในอินเตอร์เน็ตหลายต่อหลายครั้งในช่วงหลายๆปีที่ผ่านมา ผลสรุป

ส่วนใหญ่นั้นมักยกให้ หลี่ยั่วถง เป็นเซียวเหล่งนึงที่อยู่ในใจคนไทยมาก

ที่สุด เรียกได้ว่าพอพูดถึงเซียวเหล่งนึ่ง หน้าหลี่ยั่วถงจะลอยขึ้นมาทันที 

ทั้งนี้อาจด้วยเนื่องจากหลี่ยั่วถงเป็นเซียวเหล่งนึ่งในยุคกลาง ยุคที่คนยัง

ทันได้ดู หลายๆคนโตมากับเวอร์ชั่นนี้ และเป็นเวอร์ชั้นที่สร้างความ

ประทับใจอย่าง เซียวเหล่งนึ่งในเวอร์ชั่นหลียั่วถงนี้ จะอออกแนว สุขุม 

เยือกเย็น ดูเข้าถึงได้ยาก โดยส่วนตัวแล้วเห็นว่าหลียั่วถงนั้นมีหน้าตาที่

เหมาะกับการ แต่งหน้า ทรงผม และชุดในแบบโบราณมาก โดยเฉพาะ

ชุดสีขาวของเซียวเหล่งนึงดูเหมาะกับเธอที่สุด



เวอร์ชั่น ฟ่านเหวินฟาง
ที่มา http://roch.clubdara.com/image/char_xiaolongnu_07.jpg

ฟ่านเหวินฟาง นั้นมีหลายคนบอกว่า เธอเป็นเซียวเหล่งนึ่งที่มีความสวยแปลกออกไป เธอดูสวยเก๋มีสไตล์ มีใบหน้าที่เรียว แต่มีบางท่านให้ความเห็นว่าความสวยของเธอ ไม่ใช่สวยในแบบที่จะเป็นเซียวเหล่งนึ่ง เซียวเหล่งนึ่งควรจะสวยแบบเรียบๆแต่หมดจด ซึ่งฟ่านเหวินฟางออกจะดูโฉบเฉี่ยวเกินไป แต่ก็มีอีกหลายคนที่ชมชอบและคิดว่านี่แหละคือเซียวเหล่งนึ่งในจินตนาการ ในด้านการแสดง ก็มีหลายท่านให้ความเห็นว่าเธอแสดงได้ออกมาดูน่ารัก ใช้สายตาได้เก่งแม้ใบหน้าจะเย็นชาแต่ยังคงสื่อสารถึงอารมณ์ได้


เซียวเหล่งนึ่ง เวอร์ชั้น เฉินอวี้เหลียน


เวอร์ชั่น เฉินอวี้เหลียน
ที่มาhttp://roch.clubdara.com/image/char_xiaolongnu_08.jpg

ต้นฉบับแห่งเซียวเหล่งนึ่งต้องยกให้เธอคนนี้ เฉินอวี้เหลียน นี่เป็นอีกเวอร์ชั้นที่ได้รับความนิยมอย่างสูงมาก มีกลิ่นอายความเป็นจีนโบราณ เรียบง่ายแต่มีเสนห์ สิ่งที่โดดเด่นมากๆของเซียวเหล่งนึ่งเวอร์ชั้นนี้คือ ฝีมือทางการแสดงที่จัดจ้านของเฉินอวี้เหลียน บทเซียวเหล่งนึ่งเป็นบทที่แสดงได้ยากเย็นยิ่ง เพราะผู้หญิงแบบเซียวเหล่งนึ่งหาไม่ได้ในชีวิตจริง นางเติบโตมาในรูปแบบที่ต่างไปจากความนึกคิดของคนทั้วไป ดังนั้นลักษณะบุคลิกต่างๆของนางย่อมแตกต่าง มีทั้งความสง่าน่าหลงใหล และความไร้เดียงสาของคนที่ไม่เคยออกสู่โลกภายนอก ซึ่งเฉินอวี้เหลียน ก็สามารถถ่ายทอดจากตัวละครในหนังสือออกมาเป็นตัวคนจริงๆ ได้อย่างดีเยี่ยม ยากจะหาคนมาเลียนแบบ


เซียวเหล่งนึ่งถูกจัดทำออกมาในหลายเวอร์ชั่น ในแต่ละเวอร์ชั่นก็มีจุดเด่นของตัวเองตามแต่จินตนาการของผู้ทำได้ถ่ายทอดออกมา แต่ทุกครั้งตัวละครตัวนี้จะเป็นที่จับตามอง จึงจะต้องพิถีพิถัน ในการคัดหาผู้แสดงหรือในการออกแบบตัวละคร นั่นเป็นเพราะตัวละครตัวนี้มีความสำคัญและมีความพิเศษแตกต่างไปจากตัวละครอื่นๆ ทั้งในด้านรูปร่างหน้าตาที่กิมย้ง บรรยายไว้อย่างเลิศลอยว่างามเกินมนุษย์ทั่วไป และในด้านบุคลิคก็มีความพิเศษและโดดเด่น หากจะถามว่าเซียวเหล่งนึ่งเวอร์ชั้นไหน เหมาะสมตรงตามนิยายมากที่สุด คำตอบที่ได้จากแต่ละคนก็คงต่างกัน เพราะแต่ละคนก็มีจินตนาการที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งหลากหลายความคิด ความชื่นชอบ ไม่ว่าจะ เวอร์ชั่นไหนๆก็เหมาะสมทั้งนั้นผมว่า

            
 แหล่งที่มา http://roch.clubdara.com/char_xiaolongnu.php



ตัวละคร เอี้ยก้วย

          สวัสดีชาวยุทธนะครับ หลังจากที่เรารู้ถึงความเป็นมาของเร่ืองมังกรหยกแล้วนะคับ ว่าเป็นมาอย่างไร หลายๆคนก็คงได้อ่านเรื่องย่อของมังกรหยก ตอน จอมยุทธอินทรีย์แล้วนะครับ และในคราวนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับตัวละครเอก อย่าง เอี้ยวก้วย ว่า มีลักษณะและบุคฃิกอย่างไร ซึ่งผมก็นำ เอี้ยวก้วยในเวอร์ชั่นของ หวงเสี่ยวหมิง มานำเสนอ ซึ่งก็เป็นภาคที่ผมชอบเช่นกัน อิอิ


เอี้ยวก้วยเวอร์ชั่น หวงเสี่ยวหมิง 
ที่มา http://roch.clubdara.com/article_001.php
          สำหรับเอี้ยวก้วยในเวอร์ชั่นปี 2006 นี่ จะรับบทโดย หวงเสี่ยวหมิง ( Huang Xiao Ming )นะครับ  ซึ่งก็เป็นนักแสดงจากเมื่องจีนแผ่นดินใหญ่นะ และก็มี มีหลายๆท่านให้ความเห็นว่าเขาเนี้ยมีหน้าตาละม้ายคล้ายคลึ่งกับ กู่เทียนเล่อ ซึ่งเป็นนักแสดงชื่อดังชาวฮ่องกง ผู้ที่เคยได้รบบทเอี้ยก้วย เมื่อปี 1996 จนโด่งดัง เป็นที่นิยมเรื่อยมาถึงปัจจุบัน
            แต่หลังจากนั้นเมื่อมีภาพชุดแรกหลุดออกมา เอี้ยก้วยในผมสีออกแดง มีเสียงต่อต้านอยู่บ้างและก็ มีหลายคนแสดงความเห็นว่า หวงเสี่ยวหมิง ในเรื่องนี้ดูมีอายุไป(แก่ไปหน่อย )ยิ่งเมื่อเทียบกับเซียวเหล่งนึ่งเวอร์ชั้นหลิวอี้เฟยที่มีหน้าตาเยาว์วัย สวยและสดใส ยิ่งทำให้เห็นความแตกต่าง มากขึ้น
กระบี่เหล็กนิลดำ
ที่มา http://roch.clubdara.com/item_001.php


และนี่ก็คือ อาวุธที่ เอี้ยวก้วยใช้ในหนังเรื่องนี้ ก็คือ กระบี่เหล็กนิลดำเป็นอีกเครื่องหมายหนึ่งที่แสดงออกถึงความเป็นเอี้ยก้วงย เนื่องจากเป็นอาวุธที่แปลกตาดูโดดเด่น เพราะเป็นกระบี่ที่มีขนาดใหญ่และหนักมาก ผิดจากกระบี่ทั่วไป และในเวอร์ชั้นนี้ เราจะได้เห็นกระบี่เหล็กนิลดำที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งได้มาจากสุสาน ในถ่ำแห่งนี้

                สำหรับชาวยุทธท่านไหน อยากรู้เรื่องราวและรายละเอียดของ หนุ่ม หวงเสี่ยวหมิง หรือ เอี้ยวก้วยของเรานั้น ก็สามารถที่จะ เข้าไปหาหรือ อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ จากเว็บ http://roch.clubdara.com/ 

               และในคราวหน้าห้ามพลาด ผมจะมำให้คุณๆทั้งหลายรู้จักกับ เสี่ยวเล็งนึ่งมากยิ่งขึ้น ขอบอกเลย สวย และ โดดเด่น ในว่าเวอร์ชั่นไหนๆ ของเสี่ยวเล็งหนึ่ง

                                                                                        แหล่งที่มา http://roch.clubdara.com/

จอมยุทธอินทรีย์

                 สวัสดีครับ ชาวยุทธทุกท่านกลับมาพบกันอีกครั้งแล้วนะครับ จากคราวที่แล้วที่ผมได้นำ เรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับ ตำนานของมังกรหยกมานำเสนอ หลายๆคนก็คงรู้แล้วว่า ใครเป็นผู้ที่เขียน ภาพยนตร์ดีๆแบบนี้ขึ้นมา ต้องขอขอบคุณ กิมย้ง จริงๆๆที่ทำให้เราได้พบกับ มังกหยก 55+ และในวันนี้นะครับ ผมก็มีเรื่องย่อของมังกรหยก ตอน จอมยุทธอินทรีย์มานำเสนอนะครับ ทำไมต้องนำตอนนี้มานำเสนอ บอกเลยมันเป็นความชอบส่วนบุคคล แล้วผมก็เชื่อว่า หลายๆคนก็คงหลงไหลในภาคนนี้ไม่แพ้กับผม เพราะนางเอกภาคนี้ สุดยอด



                                                    คลิปมังกรหยกตอน ยอมยุทธอินทรีย์


จอมยุทธอินทรีย์

           ในสมัยที่ยุทธจักรยังไม่แบ่งพรรคธรรมะอธรรม ประเทศชาติถูกรุกราน ก๊วยเจ๋ง (หวังลั่วหยง ) วีรบุรุษแห่งชาวฮั่นได้พยายามรวมกำลังเหล่าชาวยุทธ์ขึ้นต่อสู้ เอี้ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) เด็กกำพร้าผู้เป็นลูกของเอี้ยคังน้องบุญธรรมของก๊วยเจ๋ง ได้พบกับความเปลี่ยนแปลงมากมายในชีวิต เมื่อได้พบกับก๊วยเจ๋ง (หวังลั่วหยง ) เขาได้รับความเอ็นดูจากก๊วยเจ๋งได้ไม่นานก็พบกับปัญหาต้องย้ายไปอยู่สำนักฉ่วงจิง และได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเมื่อเขาทำร้ายคนในสำนัก เขาจึงหลบหนีไปสำนักสุสานโบราณได้พบ เซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) และกราบนางเป็นอาจารย์ แต่ด้วยวันเวลาที่ใกล้ชิดกันทำให้ทั้งสองต่างผูกพันต่ออีกฝ่ายในฐานะชายหญิงโดยไม่รู้ตัว


          วันหนึ่ง ลีหมกโช้ว (ม่งกวงเหม่ย) ศิษย์พี่ของเซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) ได้บุกสำนักสุสานโบราณ แต่วิทยายุทธ์เอี้ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) และเซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) ไม่อาจเทียบได้จึงต้องหนีออกมาจากสำนักสุสานโบราณ ต่อมาด้วยเหตุเข้าใจผิดทำให้ทั้งสองต้องพรากจากกัน เอี้ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) ได้ออกตามหาเซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) และยังเอิญได้พบกันอั้งซิกกง (ซุนไห่อิง )อดีตประมุขพรรคกระยาจก และ อาวเอี๊ยงฮง (จ้ายไน่เสอ) จอมมารผู้เสียสติ และได้รับการถ่ายทอดวิชาจาก 2 ยอดฝีมือ


          แผ่นดินโดนรุกรานอย่งหนัก อึ้งย้ง (คงหลิง) จึงเชิญเหล่าชาวยุทธ์มาชุมนุมเพื่อคัดเลือกผู้นำ เอี้ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) และ เซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) ได้เข้าร่วมงานและทำให้ทั้งสองได้พบกันอีกครั้ง การพบกันในครั้งนี้ทำให้ทั้งสองต่างรู้ถึงความรู้สึกของอีกฝ่าย แต่เซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย)ได้รับพิษดอกรักซึ่งไม่มีทางรักษาได้ จึงจากไปพร้อมทิ้งข้อความบอกให้เอี๊ยก้วยรออีก 16 ปี หวังว่าเวลาจะทำให้เอี้ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) ลืมนางได้


          เอี๊ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) ที่เฝ้ารอเซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) ได้พบกับอินทรียักษ์ และถูกมันนำไปพบกับกระบี่และวิชาไร้ผู้ต้านที่ซ่อนไว้ ของเทพกระบี่และวิชาไร้ผู้ต้านที่ซ่อนไว้ ของเทพกระบี่ไร้พ่ายในตำนานต๊กโกวคิ้วป้าย (คิ้วป้ายแปลว่าแสวงหาความพ่ายแพ้) หลังจากฝึกวิชาสำเร็จเขาได้กลับสู่ยุทธจักรอีกครั้งพร้อมกับอินทรียักษ์ เพื่อช่วยเหลือชาวยุทธจักร จนได้รับการขนานนามจากชาวยุทธ์ว่า "จอมยุทธ์อินทรี"


          เรื่องราวต่าง ๆ ในยุทธจักรที่แสนวุ่นวาย แผ่นดินที่เต็มไปด้วยสงคราม สุดท้ายเหตุการณ์จะจบลงอย่างไร16 ปีที่เอี้ยก้วย (หวงเสี่ยวหมิง) เฝ้ารอเซียวเหล่งนึ่ง (หลิวอี้เฟย) ความรักที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขาจะสมหวังหรือไม่ สามารถติดตามตำนานความมันส์ และรักอันลึกซึ้งสะท้านแผ่นดินได้ในภาพยนตร์จีนชุด "มังกรหยก ตอน ตำนานศึกเทพอินทรี"    


     
แหล่งที่มา  http://www.jukkool.com/catalog.php?idp=2913

วันอังคารที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2555

ตำนานมังกรหยก

        สวัสดีครับครับ ชาวยุทธทุกท่านที่หลงเข้ามาในบล็อคแห่งนี้ หลายๆคนก็คงจะรู้จักกันดีกับ ภาพยนตร์เรื่องมังกรหยก แต่หลายๆคนก็อาจจะไม่รู้ว่า มันเป็นมายังไง ใครคือผู้เขียน แล้วมันมีกี่ภาค




              มังกรหยกเป็นภาพยนตร์กำลังภายในที่มีชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่นับว่าเป็น"อมตะ" ซึ่งมีเนื้อเรื่องที่ยาวนาน และจุดกำเนิดของภาพยนตร์จีน กำลังภายในที่โด่งดังอีกมากมาย  ก่อนจะอ่านเนื้อเรื่องย่อ ขอปูพื้นถึงเรื่องมังกรหยกก่อน ซึ่งถ้ารู้แล้วน่าจะมีอรรถรสในการดูมากยิ่งขึ้น มังกรหยกเป็นนิยายกำลังภายในที่ประพันธ์โดยกิมย้ง ซึ่งคนทั่วๆไปจะรู้จัก "ก๊วยเจ๋ง-อึ้งย้ง" จากเรื่องนี้ แต่จริงๆแล้วกิมย้งยังมีนิยายชุดที่เกี่ยวข้องอีก 3 เรื่อง อันได้แก่ 

1.มังกรหยก ภาค 2 กล่าวถึงรุ่นลูกของภาคแรก ตัวเด่นก็คือ "เอี้ยก้วย-เซียวเล่งนึ่ง" 

2.ดาบมังกรหยก เรื่องนี้เป็นสมัยหลังๆจากภาคสองสัก 200 ปีได้ แต่ชื่อบุคคลและวิชายังมีความเกี่ยวข้องบ้าง

3. แปดเทพอสูรมังกรฟ้า เรื่องนี้ย้อนกลับไปสมัยแรกๆก่อนสมัยมังกรหยก